Glycogen storage disease เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการสลาย
glycogen เนื่องจากขาด enzyme ที่ใช้ใน glycogenolysis
ก็จะพบ glycogen สะสมที่ตับและกล้ามเนื้อเป็นปริมาณมาก ทำให้เกิดอาการคือ
1.
hypoglycemia เนื่องจากสลาย
glycogen ออกมาใช้ไม่ได้
2. hepatomegaly
ตับจะโตจากการที่ glycogen
ไปสะสมแทรกตัวใน
hepatocyte
3. จากการที่ glycogen ไปสะสมที่กล้ามเนื้อต่างๆ การทำงานของกล้ามเนื้อก็จะไม่ดีเนื่องจากมีตัวมาขัดขวาง
กล้ามเนื้อจะโตแต่มี moter weakness เช่น ปวดบวมบ่อยๆ เป็นตะคริว
รู้สึกตึงที่แขนหลังยกของหนัก เป็นมาตั้งแต่เด็ก glucose ในเลือดปกติ ถ้ามีการสะสมที่กล้ามเนื้อหัวใจก็จะเกิด cardiomyopathy
และเกิด heart failure ได้
Type
|
Character
|
Type I
von Gierke’s disease
|
ขาด Glucose-6-phosphate ทำให้ glycogen สะสมที่ตับและไต
ตับปล่อย glucose ไม่ได้; ช่วงอดอาหารจึงมี hypoglycemia,
ketosis, hyperlipemia
|
Type II
Pompe’s dis
|
ขาด enzyme ย่อย glycogen พบว่า lysosome ในหัวใจและตับมีขนาดใหญ่ มักเสียชีวิตแต่เด็ก
|
Type III/ limit
dextrinosis
Forbes’ dis/ Cori’s
dis
|
ขาดการทำงานของ
debranching
enzyme ทำให้ glycogen มีโครงสร้างผิดปกติ
|
Type IV
Amylopectinosis
|
ขาดการทำงานของ
branching
enzyme ทำให้ glycogen แตกกิ่งน้อย
heart failure, liver failure
|
Type V
Myophosphorylase
deficiency
|
ขาดการทำงานของ
phosphorylase
ในกล้ามเนื้อ ออกกำลังได้น้อย, lactate ↓↓
|
Type VI/ Hers’ dis
|
ขาดการทำงานของ
phosphorylase
ในตับ จึงมี glycogen สะสมในตับมาก,
hypoglycemia แต่ไม่รุนแรง, เป็นอันตรายเพราะสมองต้องใช้กลูโคสจากเลือดตลอดเวลา
|
Type VII/ Tarui’s
dis
|
ขาด phosphofructokinase
(หน้าที่ glycolysis) ในกล้ามเนื้อและ RBC,
ออกกำลังกายได้น้อย, hemolytic
anemia
|
Type VIII
|
ขาดการทำงานของ
phosphorylase
ในตับ อาการเหมือน type VI
|
Key สำคัญในส่วนของ clinical part ที่อยากให้นึกถึง คือ
1.
คนที่เป็น liver disease เช่น cirrhosis ตับมันเจ๊งหมด ดั้งนั้นกระบวนการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
gluconeogenesis,
glycogenolysis หรือการสะสม glycogen จะแย่ไปหมด
จึงมีโอกาสเกิดภาวะ hypoglycemia ได้ง่ายกว่าคนปกติ ยิ่งกินเหล้าก็จะเกิด
hypoglycemia มากขึ้นไปอีก คนไข้จะมาด้วยหมดสติ หรือ hypoglycemia coma ได้
2.
hepatic encephalopathy คือ brain
dysfunction จากการที่ตับทำงานไม่ได้
มี
pathway หนึ่งที่เราใช้กำจัด amino acid ก็คือพวก transamination
ซึ่งอาศัย metabolite ใน Kreb’s cycle ดังนั้นคนไข้
liver disease ปฏิกิริยานี้จะเสียไป
การกำจัดของเสียเหล่านี้ก็จะลดลง จึงมีของเสียคั่ง
โดยทั่วไปการกำจัดของเสียพวกกรดอะมิโน
เรามักจะกำจัดโดยใช้ urea
cycle แต่เนื่องจากตับมันเจ๊ง urea cycle ก็จะเกิดไม่ได้ พวกแอมโมเนียก็จะไปที่
brain แล้วทำให้เกิด encephalopathy
บางคนก็บอกว่า
ของเสียตัวนั้นเนี่ยมันก็จะไปสู่กระแสเลือดแล้วเข้าสู่ brain เซลล์ใน
brain ก็พยายามจะสลายมันโดยใช้ปฏิกิริยาต่างๆ ซึ่งการที่จะสลาย
amino group ต้องอาศัยพลังงาน ทำให้พลังงานที่ใช้ใน
normal
function ของ brian เสียไป ก็จะเกิด encephalopathy มันก็อธิบายได้หลาย mechanism แต่โดยภาพรวม คือ เกิดจากการที่มีของเสียสูงขึ้นเพราะตับเสียการทำงาน
ซึ่งเราสามารถ relate กับ
Kreb cycle ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น